ท้องผูก คือภาวะที่เราเริ่มรู้สึกว่าการขับถ่ายเป็นเรื่องยาก ลำไส้ไม่สามารถขับถ่ายอุจจาระได้ง่ายและสม่ำเสมอ ต้องนั่งเบ่งถ่ายอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน ถ่ายออกมาน้อย รู้สึกถ่ายไม่สุด ทำให้รู้สึกอึดอัด แน่นท้อง ตลอดจนอุจจาระที่ออกมานั้นมีลักษณะเป็นก้อนแข็ง
ปัจจัยที่เป็นสาเหตุของอาการท้องผูก
- กิจกรรมที่ทำในชีวิตประจำวัน สามารถส่งผลให้เกิดอาการท้องผูกได้ การเคลื่อนไหวร่างกายน้อย หรืออยู่ในอิริยาบถเดิมซ้ำ ๆ ต่อกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง
- ภาวะทางจิตใจไม่ปกติ ซึม เครียด หงุดหงิด เบื่อ เศร้า เหงา กลัว เกลียด หรือตื่นเต้น ดีใจ มากเกินไป
- ความเร่งรีบกับการใช้ชีวิต ตื่นเช้าเร่งไปทำงานกลัวรถติด คนแน่น หรือเร่งรีบไปเรียน (Lifestyle คนเมือง)
- ทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักและผลไม้
- ดื่มน้ำน้อย
- การเบ่งถ่ายผิดวิธี คือ การเบ่งถ่ายที่ไม่สัมพันธ์กับการคลายตัวของหูรูดทวารหนัก ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดอาการท้องผูกแล้ว ยังทำให้รู้สึกถ่ายไม่สุด หรือยังมีอุจจาระตกค้างอยู่หลังจากถ่ายเสร็จแล้วอีกด้วย
- การทำงานที่ผิดปกติของลำไส้ใหญ่ เป็นภาวะที่ลำไส้ใหญ่เคลื่อนไหว หรือบีบตัวน้อยกว่าปกติ ทําให้อุจจาระเคลื่อนที่ช้ากว่าปกติและตกค้างอยู่ในลำไส้
ผลกระทบของภาวะท้องผูก
ภาวะท้องผูกสามารถส่งผลกระทบต่อเราทั้งทางร่างกายและจิตใจ อาจทำให้รู้สึกเครียด อึดอัด ไม่สดชื่น และยังส่งผลอื่น ๆ ตามมาในระยะยาว เช่น
- ก่อให้เกิดโรคริดสีดวงทวาร
- ก่อให้เกิดอาการลำไส้อุดตัน
- ทำให้ปวดท้อง แน่นท้อง
- ไม่ผายลม ไม่ถ่ายอุจจาระ
แก้ปัญหาท้องผูกได้อย่างไร
- ปรับพฤติกรรมการรับประทาน
โดยการทานผัก ผลไม้ ดื่มน้ำเยอะ ๆ คำว่าอาหารในที่นี้ หมายถึงการทาน ผัก ผลไม้ ที่มีเส้นใย (fiber) เพื่อเพิ่มกากใยให้กับร่างกาย ถึงจะฟังดูง่ายแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในยุคนี้ที่มีการใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ และอาหารที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย และเป็นกระแสนิยม เช่น ปิ้งย่าง ไก่ทอด เบอร์เกอร์
ดังนั้นอีกหนึ่งทางเลือกคือการเลือกทานอาหารที่มีพรีไบโอติก หรือโปรไบโอติก ก็สามารถช่วยสร้างสมดุลที่ดีในลำไส้ใหญ่ได้อีกทางหนึ่ง
อาหารที่มีพรีไบโอติก ที่ประกอบด้วย BioFOS (ไบโอฟอส) จะถูกย่อยโดยแบคทีเรียตัวดีได้แก่ บิฟิโดแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ ทำให้ได้สารที่มีประโยชน์สร้างความแข็งแรงให้ผนังลำไส้ใหญ่กลับคืนมาได้ แก๊สที่เกิดจากการย่อยจะช่วยทำให้อุจจาระมีลักษณะเป็นก้อนฟูนุ่ม และกระตุ้นให้ขับออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น นอกจากนี้กรดแลคติกที่เกิดขึ้นจะทำให้ลำไส้มีสภาวะเป็นกรดที่ทำให้แบคทีเรียตัวร้ายอยู่ไม่ได้ เท่ากับสามารถกำจัดแบคทีเรียตัวร้ายและสารพิษที่ถูกสร้างขึ้นได้อีกด้วย

- ออกกำลังกายแก้ท้องผูก
ปัจจุบันการทำงานและการใช้ชีวิตทำให้คนส่วนมากมักจะนั่งอยู่หน้าคอม อยู่ติดโต๊ะทำงาน ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดออฟฟิศซินโดรมกับคอ บ่า ไหล่ และกล้ามเนื้ออื่นๆแล้ว การนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานานโดยไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย ก็พลอยทำให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหวน้อยลงด้วย ดังนั้นการออกกำลังกาย เช่น เดิน วิ่ง หรือการออกกำลังกายประเภทอื่น ๆ ก็จะมีส่วนช่วยทำให้การเคลื่อนไหวของลำไส้กลับมาเป็นปกติ
- ท่านั่งถ่ายเป็นเรื่องสำคัญ
ท่านั่งขับถ่ายมีผลอย่างมากต่อการขับถ่ายอุจจาระ ท่านั่งที่เหมาะสมจะช่วยให้ไส้ตรงทำมุมดีขึ้นต่อการขับถ่าย ช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างมีประสิทธิผล และไม่ล้า ท่าที่ควรนั่งขับถ่าย คือ ท่านั่งที่ทำมุม 35 องศา หรือเป็นการนั่งในลักษณะนั่งยองหรืองอเข่า โดยให้เข่าอยู่เหนือสะโพก
- การใช้ยาระบายแก้ท้องผูก
จริง ๆ แล้ววิธีการใช้ยาระบาย นับเป็นไม้ตายสุดท้ายที่อยากแนะนำให้ใช้ เนื่องจากยาระบายมีทั้งคุณและโทษ ผู้ใช้จึงต้องมีความรู้ความเข้าใจก่อนที่จะใช้ยา



