พรีไบโอติกในนมแม่ vs. Eureko Fructo: เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?

บทนำ

เมื่อลูกเป็น “มือเท้าปาก” หรือ “เฮอร์แปงไจน่า” สิ่งหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่กังวลคือ ภูมิคุ้มกัน ของลูกจะลดลงหรือไม่ เพราะเด็กมักกินอาหารไม่ได้เต็มที่ ยิ่งลูกเล็กที่ยังดื่มนมแม่ หรือเพิ่งหย่านม แม่หลายคนอาจสงสัยว่า “นมแม่ก็มีพรีไบโอติกธรรมชาติ แล้วจำเป็นต้องเสริม Eureko Fructo อีกไหม?”

บทความนี้จะพาคุณมาเปรียบเทียบ “พรีไบโอติกในนมแม่” กับ “Eureko Fructo” ว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร และจุดเด่นของการเสริมพรีไบโอติกเพิ่มเติมในช่วงที่ลูกป่วยมือเท้าปากหรืออาหารการกินไม่เพียงพอ

1) รู้จัก “พรีไบโอติก” ในมุมกว้าง

1.1 นิยาม

• Prebiotic คือ ใยอาหารที่ร่างกายคนเรา ย่อยไม่ได้ ในกระเพาะและลำไส้เล็ก แต่ แบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ใหญ่ สามารถย่อยสลายได้ ทำให้เกิด Short-chain fatty acids (SCFAs) ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ

1.2 ประโยชน์

• ช่วยกระตุ้นการเจริญของจุลินทรีย์ดี (เช่น Bifidobacteria, Lactobacillus)
• ส่งเสริม ภูมิคุ้มกัน และลดโอกาสติดเชื้อในลำไส้
• ปรับปรุงระบบขับถ่าย ป้องกันท้องผูก

(อ่านภาพรวมการเสริมภูมิคุ้มกันสำหรับเด็กป่วยมือเท้าปากใน “บทบาทของ Probiotic ร่วมกับ Prebiotic…”)

2) พรีไบโอติกใน “นมแม่”

1. Human Milk Oligosaccharides (HMOs)
   • ในน้ำนมแม่มี HMOs ซึ่งเป็นพรีไบโอติกตามธรรมชาติ สร้างสิ่งแวดล้อมในลำไส้ที่ดีสำหรับทารก
2. เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด–6 เดือน
   • เด็กที่ดื่มนมแม่อย่างเดียว จะได้รับพรีไบโอติกเพียงพอในช่วงวัยทารก
3. ข้อจำกัด
   • เมื่อเด็กโตขึ้น เกิน 6 เดือน และเริ่มอาหารเสริม หรือตอนแม่หยุดให้นม อาจไม่ได้รับ HMOs จากนมแม่อีกต่อไป
   • เด็กบางคนอาจต้องหย่านมแม่ก่อน 1 ขวบด้วยเหตุผลต่าง ๆ

3) “Eureko Fructo” พรีไบโอติกเสริม

1. ส่วนผสมหลัก: Fructooligosaccharides (FOS) 55% และน้ำตาลอื่น ๆ 45% (ซูโครส ฟรุกโตส กลูโคส) ในอัตราส่วนที่เหมาะสม
2. ประโยชน์:
   • ช่วยเลี้ยงแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ คล้าย HMOs ในนมแม่
   • ลดปัญหาท้องผูก กระตุ้นการขับถ่าย
   • เสริมภูมิคุ้มกันในทางเดินอาหาร
3. จุดเด่น:
   • รูปแบบซอง ใช้งานง่าย ผสมในน้ำ นม หรืออาหารเย็น ไม่ต้องกังวลว่าจุลินทรีย์จะตาย (เพราะเป็นอาหารของจุลินทรีย์ ไม่ใช่เชื้อที่มีชีวิต)
   • เลข อย. ชัดเจน (11-1-06038-5-0001) ปลอดภัยสำหรับเด็กเล็กและผู้ใหญ่

4) พรีไบโอติกในนมแม่ VS Eureko Fructo ต่างกันอย่างไร?

5) ทำไมถึงต้องพิจารณาเสริม “Eureko Fructo” แม้ลูกดื่มนมแม่อยู่?

1. ช่วงป่วยมือเท้าปาก
   • เด็กอาจกินได้น้อย ร่างกายอ่อนแอ การเสริม FOS เพิ่มเติมช่วยให้แบคทีเรียดีในลำไส้เติบโต
   • ลดโอกาสท้องผูก และเสริมภูมิต้านทานในทางเดินอาหาร
2. อายุเกิน 6 เดือน
   • แม้ยังดื่มนมแม่ แต่เด็กอาจเริ่มอาหารเสริม ถ้าไม่ค่อยทานผักผลไม้ ก็อาจขาดใยอาหาร
   • การเสริมพรีไบโอติก ช่วยให้ขับถ่ายปกติ
3. แม่เลิกให้นม
   • เมื่อแม่ต้องหยุดให้นม ลูกจะไม่ได้ HMOs ตามธรรมชาติ การใช้ Eureko Fructo จึงเข้ามาทดแทนในระดับหนึ่ง

(ประกอบกับการดูแลแผลในปากด้วย Eureko Mouth Spray ถ้าเด็กมีแผล)

6) แนวทางการใช้ Eureko Fructo ให้ได้ผลสูงสุด

1. เริ่มจากปริมาณน้อย
   • สำหรับเด็กเล็ก อาจเริ่มที่ครึ่งซองต่อน้ำ/นมหรืออาหาร 1 มื้อ ถ้าถ่ายปกติหรือผายลมน้อยลง จึงปรับเป็น 1 ซอง
2. ผสมน้ำหรือนมอุณหภูมิห้อง
   • หลีกเลี่ยงการต้มเดือดหรือน้ำร้อนจัด
3. ดื่มน้ำเพิ่ม
   • เพื่อช่วยให้ใยอาหารทำงาน และป้องกันภาวะอืดท้อง

7) ตัวอย่างเคส “น้องดาว อายุ 10 เดือน ยังกินนมแม่”

• สถานการณ์: เป็นมือเท้าปาก เบื่ออาหารเสริม (ข้าวบด ผักต้ม) เพราะแผลในปาก เจ็บไม่อยากกิน
• การดูแล:
  • ยังดูดนมแม่เป็นหลัก แต่แม่กังวลเรื่องกากใยอาหารไม่พอ
  • ปรึกษาเภสัชกรแล้วผสม Eureko Fructo ครึ่งซองในน้ำผลไม้เย็น (สูตรเด็ก) ตอนกลางวัน วันละครั้ง
  • พ่น Eureko Mouth Spray ก่อนมื้อเย็น เพื่อให้กินโจ๊กนิ่ม ๆ ได้
• ผลลัพธ์: อาการเจ็บปากดีขึ้นใน 4-5 วัน เด็กขับถ่ายดี ไม่มีท้องผูก ทั้งยังได้ภูมิคุ้มกันจากนมแม่+FOS เสริม

• • หากสนใจวิธีเสริม Probiotic ควบคู่ Prebiotic อ่าน  “บทบาทของ Probiotic ร่วมกับ Prebiotic ช่วยฟื้นตัวเร็วจากมือเท้าปาก?”
  • ดูตัวอย่างเมนูอาหารเย็นเพื่อลดแผลปากใน “รวมเมนูอาหารเย็นชื่นใจ…”

ศึกษาภาพรวมทั้งหมดของโรคมือเท้าปากและบทบาท Eureko Mouth Spray/Eureko Fructo ได้ใน ลูกเป็นมือเท้าปาก! ทำยังไงดี? วิธีดูแล + ตัวช่วยลดเจ็บปากแบบเห็นผล

สรุป

“นมแม่” มีพรีไบโอติกตามธรรมชาติ (HMOs) ที่ดีเยี่ยมสำหรับทารกช่วงแรกเกิด แต่เมื่อเด็กโตขึ้น หรืออยู่ในช่วงป่วยมือเท้าปากที่กินได้น้อย การเสริม “Eureko Fructo” ซึ่งมี Fructooligosaccharides (FOS) ก็เป็นอีกทางเลือกเพื่อ “เติมใยอาหาร” ช่วยให้ลูกขับถ่ายดี และเสริมภูมิคุ้มกันในลำไส้

ไม่ว่าจะเป็นนมแม่หรือพรีไบโอติกเสริม ก็ล้วนเป็นเครื่องมือสำคัญในการดูแลสุขภาพเด็กให้แข็งแรง โดยเฉพาะช่วงที่ป่วยเป็นมือเท้าปาก เฮอร์แปงไจน่า หรือไวรัสอื่น ๆ ทั้งนี้ อย่าลืมว่า หากลูกมีแผลเจ็บปากหนัก ควรใช้ Eureko Mouth Spray เพื่อเคลือบแผล ลดเจ็บขณะกินอาหาร และควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพิ่มเติมหากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ค่ะ