เช็คลิสต์สำหรับผู้ดูแล: ตรวจจุดเสี่ยงแผลกดทับในร่างกายภายใน 3 นาที

การดูแลผู้ป่วยติดเตียงไม่ใช่แค่เรื่องการให้อาหารหรือการเปลี่ยนผ้าอ้อมเท่านั้น แต่หนึ่งในภารกิจสำคัญที่ผู้ดูแลไม่ควรละเลยเลยก็คือ การตรวจจุดเสี่ยงของแผลกดทับเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้สามารถป้องกันไม่ให้แผลเกิดขึ้นได้ตั้งแต่แรกเริ่ม

เพียงแค่ 3 นาทีต่อวัน ก็สามารถช่วยลดโอกาสเกิดแผลกดทับได้มากกว่า 80% หากทำอย่างต่อเนื่องและถูกวิธี พร้อมกับใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวอย่างถูกจุด

ทำไมต้องตรวจจุดเสี่ยงแผลกดทับทุกวัน?

แผลกดทับ (Pressure Ulcers) มักเกิดจากแรงกดและแรงเสียดสีที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ โดยเฉพาะในบริเวณที่มีปุ่มกระดูก เช่น ก้นกบ ข้อศอก ส้นเท้า หรือสะโพก หากปล่อยไว้นานโดยไม่สังเกต อาจกลายเป็นแผลลึกที่ติดเชื้อได้ง่ายและรักษายาก ใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะหาย

การตรวจจุดเสี่ยงทุกวันจึงเป็น วิธีเชิงรุก (preventive) ที่สำคัญที่สุด เพราะสามารถจับสัญญาณเริ่มต้นของแผลได้ทัน เช่น ผิวแดง ผิวเปียก ผิวบางผิดปกติ หรือเริ่มมีรอยแตก

✅ เช็คลิสต์ 3 นาที: ตรวจจุดเสี่ยงแผลกดทับ

ต่อไปนี้คือเช็คลิสต์ที่สามารถทำได้ภายใน 3 นาที ใช้ได้ทุกวันหลังอาบน้ำหรือเปลี่ยนผ้าอ้อม

🔸 1. บริเวณก้นกบ (sacrum)

• จุดที่พบบ่อยที่สุด
• ดูว่ามีผิวแดง ร้อน หรือเปียกหรือไม่
• หากใช้ผ้าอ้อม ควรดูว่าผิวระคายเคืองหรือไม่

🔸 2. สะโพกทั้ง 2 ข้าง (hip bones)

• ตรวจว่าผิวบางหรือเริ่มแดงหรือยัง
• ใช้ฝ่ามือลูบสัมผัส ถ้ามีจุดแข็งหรือปูดผิดปกติควรสังเกต

🔸 3. ส้นเท้า (heels)

• เป็นบริเวณที่สัมผัสเตียงตลอดเวลา
• ตรวจว่ามีผิวแห้งแตก หรือเปลี่ยนสีหรือไม่

🔸 4. ข้อศอก (elbows)

• จุดเล็กแต่มีโอกาสเป็นแผลได้สูง
• ถ้ามีรอยเสียดสีจากเตียงหรือโต๊ะ ควรใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบผิว

🔸 5. หลังหู / หลังศีรษะ

• โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่นอนหงายตลอด
• สังเกตว่าผิวลอกหรือมีความเปียกชื้นหรือไม่

🔸 6. ขาหนีบและต้นขาด้านใน

• หากใส่ผ้าอ้อมเป็นเวลานาน ความชื้นและความเสียดสีสูง
• ตรวจดูว่ามีรอยแดงหรือผื่นขึ้นหรือไม่

หากพบว่ามี “รอยแดงไม่จางเมื่อกด” หรือผิวเปียกเรื้อรัง ให้ถือว่าเป็นสัญญาณเตือนของแผลกดทับระยะเริ่มต้น

ดูแลจุดเสี่ยงอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ?

แม้จะตรวจพบจุดเสี่ยงได้เร็ว แต่ถ้าไม่ได้ดูแลอย่างถูกวิธี ก็ยังมีโอกาสที่แผลจะพัฒนาได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วัน โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่อ่อนแรง หรือมีภาวะขาดสารอาหารร่วมด้วย

วิธีป้องกันและดูแลที่แนะนำ:

1. พลิกตัวผู้ป่วยทุก 2 ชั่วโมง
   • ลดแรงกดซ้ำเดิม
   • ใช้หมอนหนุนรองจุดที่เสี่ยง
2. ใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบผิวเพื่อป้องกัน
   • Mildvy Spray เป็นสเปรย์ที่เคลือบผิวเป็นฟิล์มบาง ไม่เหนียว ไม่แสบ
     ช่วยลดการเสียดสีและความชื้นที่สะสม
     เหมาะกับการใช้ที่ก้นกบ ขาหนีบ และจุดสัมผัสผ้าอ้อม
3. ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน
   • ใช้สบู่ pH อ่อน (ไม่ควรใช้สบู่ทั่วไป)
   • ซับผิวให้แห้งทุกครั้งโดยไม่ถูแรง
4. เสริมจากภายในด้วยพรีไบโอติก
   • Immunex FOS ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ลดท้องผูก
   • ท้องผูกเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยต้องเบ่ง ส่งผลให้แผลเกิดที่ก้นกบง่ายขึ้น
   • เมื่อการขับถ่ายดีขึ้น ผิวและภูมิคุ้มกันก็ฟื้นฟูได้เร็วขึ้น

ทำไมต้อง Mildvy + Immunex FOS?

การดูแลแผลกดทับที่ดี ต้องดูแลทั้งภายนอกและภายใน

• Mildvy Spray:
  เคลือบผิวในบริเวณเสี่ยง ป้องกันไม่ให้เกิดการเสียดสีจากผ้าอ้อมและเตียง พร้อมป้องกันความชื้นไม่ให้ทำร้ายผิว
  พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญจากไต้หวัน มีใบอนุญาตเครื่องมือแพทย์อย่างถูกต้อง
  ใช้ง่าย ปลอดภัยแม้ผิวบอบบางของผู้สูงอายุ
• Immunex FOS:
  เป็นพรีไบโอติกที่ผ่านการวิจัยแล้วว่า ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ดีในลำไส้, ลดอาการท้องผูกเรื้อรัง และเพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุที่ช่วยในการสมานแผล
  เหมาะกับผู้สูงอายุที่ทานอาหารน้อย และมีปัญหาขับถ่ายเป็นประจำ

อ่านเพิ่มเติม :

• วิธีป้องกันแผลกดทับในผู้ป่วยติดเตียง
• ผิวบางในผู้สูงอายุ: ทำไมเกิดแผลง่าย
• ดูแลผู้ป่วยที่กลั้นขับถ่ายไม่ได้
• ประสบการณ์จริง: ผู้ป่วยดีขึ้นหลังใช้ Mildvy + Immunex FOS

สรุป: 3 นาทีที่เปลี่ยนคุณภาพชีวิตผู้ป่วยได้

อย่าคิดว่าแผลกดทับจะไม่มีทางเกิดขึ้นหากผู้ป่วยยังไม่มีอาการ ทุกจุดสัมผัสเตียงและผ้าอ้อมคือ “จุดเสี่ยง” และการเสียเวลาเพียง 3 นาทีในแต่ละวันเพื่อเช็คจุดเหล่านี้ คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดเพื่อป้องกันแผลเรื้อรังในระยะยาว

เริ่มดูแลตั้งแต่วันนี้ ด้วยคู่หูการดูแลผิวและลำไส้:

✅ Mildvy Spray เคลือบผิว ปกป้องทุกจุดเสี่ยง
✅ Immunex FOS ฟื้นฟูลำไส้ เพิ่มพลังจากภายใน

📦 สนใจชุดดูแลป้องกันแผลกดทับ 📞 065-2054689
📲 สั่งซื้อผ่าน LINE: @genkihouses
🌐 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.genkihouses.com