ผู้ป่วยมะเร็งจำนวนมากที่เข้ารับการรักษาด้วย ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy) หรือ รังสีรักษา (Radiotherapy) มักเผชิญกับผลข้างเคียงที่เจ็บปวดและส่งผลรุนแรงต่อคุณภาพชีวิต หนึ่งในนั้นคือ ภาวะเยื่อบุช่องปากอักเสบ (Oral Mucositis; OM) ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหาร ดื่มน้ำ หรือแม้แต่พูดคุยได้อย่างปกติ
งานวิจัยโดย Sonis ST. (Nat Rev Cancer, 2004) รายงานว่า OM พบได้ในผู้ป่วย 40% ที่ได้รับเคมีบำบัดทั่วไป และสูงถึง 80–90% ในผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูก (HCT) หรือ concurrent chemoradiation ขณะที่ Lalla RV et al. (Cancer, 2014) ระบุว่า ผู้ป่วยกว่า ครึ่งหนึ่งต้องใช้ยา opioid เพื่อลดความเจ็บปวดจาก OM ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนว่า OM ไม่ใช่แค่ภาวะข้างเคียงเล็ก ๆ แต่เป็น “อุปสรรคสำคัญ” ที่อาจทำให้การรักษามะเร็งสะดุด
ลักษณะอาการและผลกระทบที่รุนแรง
อาการของ OM มักเริ่มจาก เยื่อบุแดง บวม แสบร้อน ก่อนจะพัฒนาเป็น แผลเปิด ที่พบบริเวณกระพุ้งแก้ม ริมฝีปาก ลิ้น เพดานปาก หรือพื้นปาก
- ปัญหาทางกายภาพ: เจ็บปวดมากจนไม่สามารถกินอาหารได้ ต้องให้อาหารทางสาย
- เสี่ยงติดเชื้อ: เชื้อรา (Candida) และแบคทีเรียแกรมลบเจริญในแผลได้ง่าย ทำให้ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ
- โภชนาการและน้ำหนัก: การรับประทานลดลง ทำให้เกิดภาวะทุพโภชนาการ ร่างกายอ่อนเพลีย
- ภาวะจิตใจ: ความเจ็บปวดเรื้อรังและการพึ่งพาผู้อื่นส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดความเครียด ซึมเศร้า หรือรู้สึกด้อยค่า
Elting LS et al. (Cancer, 2003) ยังรายงานว่า OM ทำให้ค่าใช้จ่ายในการรักษามะเร็งเพิ่มขึ้น กว่า $17,000 ต่อราย เพราะต้องใช้ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะ และอาจต้องนอนโรงพยาบาลนานขึ้น
ทำไมผู้ป่วยบางรายถึงเกิด OM รุนแรงกว่าคนอื่น?
ปัจจัยที่ทำให้ OM มีความรุนแรงแตกต่างกัน ได้แก่
- ขนาดและชนิดยา/รังสี: ยิ่งโดสมาก ความเสี่ยงยิ่งสูง
- การรักษาร่วม: concurrent chemo-radiation ทำให้ OM เกิดเร็วและรุนแรงกว่าการรักษาแบบเดียว
- อายุ: เด็กและผู้สูงอายุฟื้นตัวช้ากว่าคนวัยกลางคน
- สุขภาพช่องปากก่อนรักษา: ฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือแผลเดิม เพิ่มโอกาสเกิด OM (Elting LS, 2008)
- พฤติกรรมเสี่ยง: สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และโภชนาการที่ไม่เหมาะสม
กลไกการเกิด OM: ไม่ใช่แค่ “ยาไปทำลายเซลล์”
งานของ Sonis (2004) อธิบาย OM ว่าเป็น กระบวนการหลายระยะ (multiphase process):
- Initiation: ยา/รังสีทำลาย DNA และโปรตีนในเซลล์
- Amplification: เกิด oxidative stress และ cytokine storm (TNF-α, IL-1β, IL-6)
- Ulceration: เกิดแผลเปิด เจ็บมาก และเสี่ยงติดเชื้อ
- Healing: หลังหยุดยา/รังสี เยื่อบุค่อย ๆ ฟื้น แต่ยังเปราะบาง
แนวทางดูแลผู้ป่วย OM
แนวทางการดูแล (MASCC/ISOO Guidelines, 2020) เน้น บรรเทาอาการและป้องกันการติดเชื้อ มากกว่ารักษาที่ต้นเหตุ
- ดูแลช่องปาก: แปรงฟันขนนุ่ม บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ 4–6 ครั้ง/วัน
- บรรเทาปวด: topical analgesics (benzocaine, triamcinolone paste) → รายรุนแรงต้องใช้ opioid
- ป้องกันการติดเชื้อ: ประเมิน oral hygiene ทุกวัน และใช้ยาปฏิชีวนะเมื่อจำเป็น
- โภชนาการ: อาหารอ่อน โปรตีนสูง เพื่อเสริมการฟื้นตัว
PVP Gel: ทางเลือกใหม่ในการจัดการ OM
หนึ่งในนวัตกรรมที่กำลังได้รับความสนใจคือ Polyvinylpyrrolidone (PVP) Gel ซึ่งทำงานผ่าน 3 กลไกหลัก:
- Mucoadherent Film: PVP ยึดเกาะกับเยื่อบุช่องปาก สร้างฟิล์มบาง ๆ เคลือบแผล → ป้องกันการระคายเคืองจากการกินอาหาร/น้ำ
- Hydration Effect: ดูดน้ำและเก็บความชุ่มชื้น ลดอาการปากแห้ง
- Protective Barrier: ป้องกันปลายประสาทสัมผัส → ลดอาการเจ็บปวดได้ทันที
งานวิจัยของ Silvestri et al. (Support Care Cancer, 2021) รายงานว่า PVP-based spray/gel สามารถลดความปวดและช่วยให้ผู้ป่วยกลับมารับประทานอาหารได้ดีขึ้น ภายใน 3 วันแรกของการใช้
สรุป: ทำไม PVP Gel คือคำตอบที่ใช่
- OM คือผลข้างเคียงรุนแรง ที่กระทบคุณภาพชีวิตและการรักษามะเร็ง
- การดูแลช่องปาก + PVP Gel ช่วยลดปวด ฟื้นฟูแผล และเพิ่มความสามารถในการรับประทาน
- มีหลักฐานวิจัยรองรับ ว่า PVP ช่วยสร้างฟิล์มเคลือบ ลดการระคายเคือง และเพิ่ม QoL ของผู้ป่วย
✨ หากคุณหรือคนที่คุณรักกำลังเผชิญ แผลในช่องปากจากเคมีบำบัดหรือรังสีรักษา ให้ PVP Gel เป็นผู้ช่วยฟื้นฟูคุณภาพชีวิต ดูแลช่องปากให้สะอาด ชุ่มชื้น และลดความเจ็บปวด
📦 สั่งซื้อ/สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
- LINE OA: @genkihouses
- Shopee / Lazada: ค้นหา PVP Gel Genki Houses
- ☎️ โทร 065-2054689 (ปรึกษาเภสัชกรฟรี)