เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องเคยใช้ ยาระบาย เพื่อบรรเทาอาการท้องผูก บางคนใช้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สามารถขับถ่ายได้ดีขึ้น แต่สำหรับบางคนอาจใช้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
ซึ่งโดยปกติแล้วการใช้ ยาระบาย จะไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายหากใช้อย่างถูกต้อง แต่ถ้าเผลอใช้นานจนเกินไป อาจทำให้เกิดอาการติดยาระบาย ซึ่งจะผลเสียต่อร่างกาย และทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า “ลำไส้ขี้เกียจ” ได้นั่นเอง
ส่งผลเสียอย่างไร ?
การใช้ยาระบายติดต่อกันนานเกินไป หรือใช้ไม่ถูกวิธี ใช้ไม่ตรงตามคำแนะนำของแพทย์ จะทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น รู้สึกคลื่นไส้, ร่างกายอ่อนเพลีย, ท้องอืด หรือท้องเสีย เป็นต้น และเมื่อร่างการเข้าสู่ภาวะของการติดใช้ยาระบาย จะส่งผลให้ลำไส้ติดสารกระตุ้น โดยลำไส้จะไม่สามารถทำงานได้เองเลยหากไม่มีตัวกระตุ้น เมื่อไม่ทานยาระบาย ก็จะไม่ถ่าย
หรือถ้าทานต่อเนื่องนานเกินไป ก็ทำให้เกิดอาการดื้อสารกระตุ้น เหมือนเวลาเราดื้อยา จึงทำให้ต้องเพิ่มขนาดยามากขึ้น ซึ่งลำไส้ก็จะไม่ทำงานด้วยตัวเองตามธรรมชาติอีกเลย ในระยะยาวส่งผลทำให้กลายเป็นโรคท้องผูกเรื้อรังได้โดยสมบูรณ์
นอกจากนี้ยังมีผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อติดใช้ยาระบายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจ, ภาวะขาดน้ำ, ภาวะขาดสมดุลของแร่ธาตุในร่างกาย, โรคไต และโรคเกี่ยวกับลำไส้ เป็นต้น
เมื่อติดใช้ยาระบาย ควรทำอย่างไร ?
สิ่งแรกที่ต้องสังเกตตัวเองเลยก็คือ หากเกิดอาการท้องผูกแล้วต้องการพึ่งยาระบายแบบเร่งด่วน ควรใช้อย่างระมัดระวัง โดยไม่ควรให้เกิน 1 สัปดาห์ หรือหากเริ่มมีอาการท้องผูกที่ไม่รุนแรงมากนัก ควรแก้ไขโดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง ดังนี้
- ควรรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เพื่อช่วยกระตุ้นการขับถ่าย
- ดื่มน้ำให้เพียง อย่างน้อย 1.5 – 2 ลิตร ในหนึ่งวัน
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ฝึกอุจจาระให้เป็นเวลา และสม่ำเสมอ (ไม่ควรเร่งรีบ และเมื่อรู้สึกอยากขับถ่าย ควรไปขับถ่ายอุจจาระทันที ไม่ควรอั้นไว้)
- ทานอาหารที่ประกอบไปด้วยโพรไบโอติก ที่เป็นจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหาร ช่วยให้ลำไส้กลับมาทำงานเป็นปกติได้ และส่งผลให้ลำไส้เกิดความสมดุล
นับว่ามีวิธีอีกมากมายที่จะทำให้เราห่างไกลจากอันตรายของการใช้ยาระบาย ซึ่งท้ายที่สุดแล้ววิธีการที่ดีที่สุดคือการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของตัวเอง โดยสามารถเริ่มจากการปรับมื้ออาหารในแต่ละวัน การเลือกทานสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้ร่างกายเริ่มคุ้นชินได้ และนำไปสู่การเลิกใช้ยาระบายได้ในที่สุด