อาหารเสริมมะเร็งปอด: เสริมพลังปอด บำรุงร่างกาย สู้โรคร้าย

วันนี้ เราจะมาพูดคุยกันถึงเรื่อง “มะเร็งปอด” ภัยเงียบที่อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด และ “อาหารเสริม” ที่สามารถช่วยบำรุงร่างกายและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้ป่วย

มะเร็งปอด: ภัยเงียบใกล้ตัว

มะเร็งปอดเกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์ในปอดซึ่งอาจลุกลามไปยังส่วนอื่นๆของร่างกาย สาเหตุหลักของมะเร็งปอด คือการสูบบุหรี่ รวมถึงควันบุหรี่มือสอง มลภาวะทางอากาศ สารเคมี (เช่น แร่ใยหิน) และ ปัจจัยทางพันธุกรรม

อาการ: มะเร็งปอดในระยะเริ่มแรกมักไม่แสดงอาการ แต่เมื่อโรคลุกลามอาจมีอาการ เช่น ไอเรื้อรัง ไอมีเลือดปน เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก เสียงหวีด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อนเพลีย เสียงแหบ บวมที่ใบหน้าและลำคอ

การวินิจฉัย: แพทย์จะทำการวินิจฉัยโรคโดยละเอียด โดย ซักประวัติ ตรวจร่างกาย และ ส่งตรวจเพิ่มเติม เช่น เอกซเรย์ปอด CT Scan MRI PET Scan และ ตรวจชิ้นเนื้อ เพื่อยืนยัน การวินิจฉัย และ ชนิด ของ มะเร็ง

การรักษา: ขึ้นอยู่กับชนิด ระยะ และ สุขภาพของผู้ป่วย เช่น

• การผ่าตัด: ตัด ก้อนมะเร็งออก
• เคมีบำบัด: ใช้ยาเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง
• รังสีรักษา: ใช้รังสีเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง
• การรักษาแบบมุ่งเป้า: ใช้ยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงกับเซลล์มะเร็ง
• ภูมิคุ้มกันบำบัด: กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง

โภชนาการและแผลในปาก: ปัญหาที่พบบ่อยในผู้ป่วยมะเร็งปอด

แผลในปาก เป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยในผู้ป่วยมะเร็งปอดที่ได้รับเคมีบำบัด หรือรังสีรักษา แผลในปากจะทำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้ยาก กลืนลำบาก และส่งผลต่อภาวะโภชนาการของผู้ป่วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การดูแลเรื่องโภชนาการเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว และลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ

ถึงแม้ในผู้ป่วยมะเร็งปอดไม่เกิดแผลในปาก อาหารที่ผู้ป่วยรับประทาน มีผลต่อสุขภาพคุณภาพชีวิต และการตอบสนองต่อการรักษา

ประโยชน์ของโภชนาการที่ดี:

• • ช่วยซ่อมแซมเซลล์: การรักษามะเร็งปอดด้วยเคมีบำบัด และ รังสีรักษา จะมีผลกับเซลล์มะเร็งและทำลายเซลล์ปกติด้วย อาหารกลุ่มโปรตีนจะช่วยซ่อมแซม และ เสริมสร้างเซลล์ใหม่ทำให้ร่างกายฟื้นฟูและกลับมาแข็งแรง
  • ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: ระบบภูมิคุ้มกันมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง วิตามิน แร่ธาตุ ในอาหารจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดโอกาสการติดเชื้อ
  • ช่วยเพิ่มพลังงาน: การรักษามะเร็งปอดมักทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย อาหารที่ให้พลังงาน เช่น คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และไขมันดีช่วยให้ผู้ป่วยมีแรงและสดชื่น

• ช่วยสร้างกำลังใจ: อาหารที่น่ารับประทาน ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร และ สร้างกำลังใจให้ผู้ป่วยกลับมามีพลังใจในการเข้ารับการรักษาจนเสร็จ เรื่องนี้มีความสำคัญมากถ้าเรายังกินอาหารทางปากได้ ถึงแม้รสชาติจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมแต่มันยังเป็นกำลังใจให้เดินหน้าต่อไป แต่ถ้ารักษาไปแล้วการกินแย่ลงต้องมาเจาะท้องหรือใส่สายอาหาร อาจทำให้กำลังใจลดน้อยลงได้

โภชนาการที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยที่มีแผลในปาก:

• เน้นอาหารอ่อน ย่อยง่าย: เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ซุป เนื้อปลา เนื้อไก่ ไข่ตุ๋น 
• หลีกเลี่ยงอาหารที่แข็งและทำให้ระคายเคืองแผล: เช่น อาหารรสจัดเผ็ด เค็ม หวานจัด อาหารแข็ง อาหารร้อนจัด อาหารเย็นจัด อาหารหรือผลไม้รสเปรี้ยว ซึ่งอาจทำให้แผลในปากเจ็บมากขึ้น

อาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง: ตัวช่วย ที่ ขาดไม่ได้

อาหารเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สำคัญสำหรับผู้ป่วยมะเร็งปอด โดยเฉพาะในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ และ ต้องการสารอาหารหรือพลังงานเป็นพิเศษ

• • โปรตีน: เช่น จากเนื้อสัตว์  โปรตีนจากถั่วเหลือง ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อซึ่งสูญเสียไปจากการรักษา เช่น เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
  • วิตามิน และ แร่ธาตุ: เช่น วิตามินซี วิตามินอี สังกะสี ซีลีเนียม ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กลับมาเป็นปกติ เพราะยารักษามะเร็งมีผลกับเซลล์ปกติของร่างกายด้วยทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ

• พรีไบโอติกส์: เช่น FOS (Fructooligosaccharides) ช่วยปรับสมดุลลำไส้ท้องไม่ผูก ลดปัญหาการกินยาระบาย ปลอดภัยเพราะเป็นการกินอาหารเลี้ยงเชื่อแบคทีเรียในลำไส้ ไม่ใช่การกินแบคทีเรียตัวดี (โปรไบโอติกส์) ซึ่งเป็นเรื่องห้ามในช่วงที่รักษาให้ยามะเร็ง

คำแนะนำเพิ่มเติม

1. ดื่มน้ำมากๆ: เพื่อช่วยให้ช่องปากชุ่มชื้น และ ลดการระคายเคือง
2. บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ: บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ (โดยเอาเกลือทำกับข้าวผสมน้ำดื่มขวด1500มล ) วันละหลายๆ ครั้งเพื่อช่วยลดการอักเสบหรือทำความสะอาดในช่องปาก
3. รักษาความสะอาดในช่องปาก: แปรงฟันด้วยแปรงสีฟันขนนุ่ม และใช้ยาสีฟันเด็ก เพราะบางครั้งยาสีฟันผู้ใหญ่ที่มีมิ้นต์หรือสมุนไพรจะทำให้แสบแผล แนะนำให้แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และไม่ใช้ไหมขัดฟัน หรือน้ำยาบ้วนปาก

ข้อควรระวัง:

• ปรึกษาแพทย์: ก่อนรับประทานอาหารเสริม ควรปรึกษาแพทย์ หรือ เภสัชกร เพื่อ ความปลอดภัย และ ประสิทธิภาพ เนื่องจากอาหารเสริมบางชนิด อาจมีปฏิกิริยากับยาที่ใช้ ในการรักษา
• เลือกผลิตภัณฑ์ ที่ มีคุณภาพ: เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง จากอย. (องค์การอาหารและยา) ตรวจสอบให้ดีและมั่นใจก่อนจะบริโภค

PVP Gel: ตัวช่วยสำคัญในการลดอาการเจ็บปาก

PVP Gel เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บในช่องปาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่ต้องการการปกป้องแผลจากการเสียดสีและการอักเสบ ซึ่ง PVP Gel ประกอบด้วยสารโพลีไวนิลไพโรลิโดน (PVP) ที่ช่วยเคลือบแผล ทำให้ลดอาการเจ็บและสร้างชั้นฟิล์มบางๆ เพื่อป้องกันการสัมผัสกับสิ่งกระตุ้นในช่องปาก เช่น อาหาร เครื่องดื่ม และอากาศแห้ง

ประโยชน์สำคัญของ PVP Gel ในการรักษาเยื่อบุกระพุ้งแก้มอักเสบ

• • บรรเทาอาการเจ็บปวดได้อย่างรวดเร็ว: PVP Gel มีคุณสมบัติที่ทำให้รู้สึกเย็นและสบาย เมื่อทาแล้วอาการเจ็บจะลดลงภายใน 1 นาที ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้สะดวกขึ้น
  • ส่งเสริมการสมานแผลและลดการอักเสบ: ฟิล์มเคลือบของ PVP Gel ช่วยรักษาความชุ่มชื้นในช่องปาก ลดการอักเสบของเนื้อเยื่อ และเร่งการสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น

• ลดโอกาสการติดเชื้อซ้ำซ้อน: การเคลือบป้องกันของ PVP Gel ช่วยลดการสัมผัสกับแบคทีเรียและสิ่งสกปรกในช่องปาก ทำให้แผลหายไวขึ้น และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเพิ่มเติม

• • เพิ่มคุณภาพชีวิตประจำวัน: ด้วยการบรรเทาอาการเจ็บปวดและทำให้สามารถพูดคุย รับประทานอาหาร และดื่มน้ำได้อย่างสะดวก ผู้ป่วยจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

• ความปลอดภัยสูง: PVP Gel ไม่มีส่วนผสมของยาปฏิชีวนะ สเตียรอยด์ หรือแอลกอฮอล์ จึงไม่มีผลกระทบกับการรักษามะเร็ง และไม่เกิดอาการข้างเคียงเช่นอาการชาหรือการแสบที่รุนแรง

Immunex FOS: เสริมภูมิคุ้มกัน ระบบขับถ่าย โดยไม่รบกวนการรักษา

Immunex FOS เป็น พรีไบโอติก ที่ มีส่วนประกอบ ของ FOS (Fructooligosaccharides) ซึ่งเป็น ใยอาหาร ชนิดละลายน้ำ ที่ ช่วย ส่งเสริม การเจริญเติบโต ของ จุลินทรีย์ ที่ดี ใน ลำไส้ (probiotics) ผู้ป่วยที่ได้รับเคมีบำบัดมักเผชิญกับปัญหาท้องผูกเนื่องจากการรับประทานอาหารน้อยลงและการหลีกเลี่ยงอาหารสดบางชนิด Immunex FOS ซึ่งเป็นพรีไบโอติกส์จะช่วยปรับสมดุลในลำไส้ ลดอาการท้องผูกได้โดยไม่รบกวนกระบวนการรักษามะเร็ง

พรีไบโอติกส์ต่างจากโปรไบโอติกส์อย่างไร?

• พรีไบโอติกส์ (เช่น FOS หรือ Fructooligosaccharides): เป็นเส้นใยอาหารที่ช่วยเลี้ยงแบคทีเรียตัวดีในลำไส้ ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการทำงานของแบคทีเรียตัวดีที่มีอยู่ในลำไส้ตามธรรมชาติ โดยไม่ใช่การเติมแบคทีเรียจากภายนอก เป็นการช่วยส่งเสริมการขับถ่ายได้อย่างเป็นธรรมชาติและปลอดภัยโดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันลดลง
• โปรไบโอติกส์: เป็นแบคทีเรียตัวดีที่เติมเข้าสู่ร่างกายจากภายนอก เช่น ผ่านผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยว ซึ่งไม่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในช่วงให้เคมีบำบัด เนื่องจากภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยอยู่ในระดับที่อ่อนแอ การทานโปรไบโอติกส์อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อซ้ำซ้อนได้

ประโยชน์ของ Immunex FOS

• เสริมการขับถ่ายและปรับสมดุลลำไส้: Immunex FOS เป็นพรีไบโอติกส์ที่ช่วยเพิ่มปริมาณแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ ซึ่งช่วยเสริมกระบวนการขับถ่ายและลดอาการท้องผูก
• ลดความจำเป็นในการใช้ยาระบาย: ด้วยคุณสมบัติในการเพิ่มปริมาณไฟเบอร์และปรับสมดุลในลำไส้ Immunex FOS ช่วยลดการใช้ยาระบายที่อาจทำให้ร่างกายเสียสมดุลไปได้
• ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: จุลินทรีย์ ที่ดี ใน ลำไส้ มีบทบาทสำคัญ ใน ระบบภูมิคุ้มกัน FOS ช่วย ส่งเสริม การทำงาน ของ ระบบภูมิคุ้มกัน
• ปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยเคมีบำบัด: เนื่องจาก Immunex FOS ทำงานโดยการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมในลำไส้ที่ดีต่อแบคทีเรียตัวดีที่มีอยู่แล้ว ไม่ใช่การเพิ่มแบคทีเรียใหม่ๆ จึงปลอดภัยและเหมาะสำหรับการสนับสนุนสุขภาพลำไส้ในผู้ป่วยที่ต้องการการฟื้นฟู

การเลือกใช้พรีไบโอติกส์แทนโปรไบโอติกส์เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเหมาะสมในระหว่างการรักษามะเร็ง ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถรักษาสุขภาพลำไส้และการขับถ่ายได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มเติม

กำลังใจ และ การดูแลตัวเอง

การต่อสู้กับมะเร็งปอด ต้องอาศัย ทั้ง พลังกาย และ พลังใจ การดูแลตัวเอง ให้ แข็งแรง ทั้ง ร่างกาย และ จิตใจ เป็นสิ่งสำคัญ เช่น การพักผ่อน การออกกำลังกาย การผ่อนคลาย และ การได้รับกำลังใจ จาก คนรอบข้าง

การดูแลผู้ป่วยมะเร็งนั้น การเลือกรับประทานอาหารครบ 5 หมู่และมีประโยชน์ ร่วมกับการดูแลตัวเอง และ การได้รับกำลังใจ เป็นสิ่งสำคัญ ที่ จะช่วยให้ผู้ป่วย มีคุณภาพชีวิตที่ดีและผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้

💡 สนใจสั่งซื้อ PVP Gel หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE @genkihouses
📖 ดาวน์โหลดฟรี E-Book สู้มะเร็งไปด้วยกัน https://online.fliphtml5.com/djqxd/obbe/
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.genkihouses.com