เคมีบำบัด หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “คีโม” เป็นวิธีการรักษามะเร็งที่ใช้ยา โดยยาจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางหลอดเลือดดำ และออกฤทธิ์ทำลายเซลล์มะเร็งที่แบ่งตัวอย่างรวดเร็ว โดยทั่วไป การให้คีโมมักเป็นการให้ยาแบบผู้ป่วยนอก หมายความว่าผู้ป่วยจะได้รับยา และกลับบ้านได้ โดยไม่ต้องนอนพักที่โรงพยาบาล
ยาเคมีบำบัดมีหลากหลายชนิด และมีกลไกการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง และระยะของโรค แต่โดยรวมแล้ว ยาเคมีบำบัดจะทำงานโดยการยับยั้ง หรือ ทำลาย เซลล์มะเร็ง เพื่อป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็งขยายตัว และ แพร่กระจาย ไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ในบางกรณี การให้คีโมมีวัตถุประสงค์เพื่อลดขนาดของก้อนมะเร็ง เพื่อให้สามารถผ่าตัด หรือ ฉายรังสี ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยาเคมีบำบัด ไม่ได้ทำลายเฉพาะเซลล์มะเร็ง แต่ยังส่งผลกระทบต่อเซลล์ปกติที่แบ่งตัวเร็ว เช่น เซลล์รากผม เซลล์เยื่อบุทางเดินอาหาร และ เซลล์เม็ดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของผลข้างเคียง เช่น ผมร่วง คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร แผลในปาก และภูมิคุ้มกันต่ำ ดังนั้น การฟื้นฟูร่างกายหลังคีโมจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการดูแลด้านโภชนาการ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และเตรียมความพร้อมร่างกายสำหรับการรักษาในขั้นต่อไป
โภชนาการ: กุญแจสำคัญสู่การฟื้นฟู
โภชนาการที่เหมาะสม ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวจากคีโมได้เร็วขึ้น โดยมีบทบาทสำคัญ ดังนี้
- ซ่อมแซมเซลล์: คีโมทำลายเซลล์ที่แบ่งตัวเร็ว รวมถึงเซลล์มะเร็งและเซลล์ปกติ โภชนาการที่ดี ช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย และสร้างเซลล์ใหม่ โดยเฉพาะเซลล์เยื่อบุทางเดินอาหาร และเซลล์เม็ดเลือดขาว ที่สำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกัน
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: คีโมอาจกดภูมิคุ้มกัน ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ สารอาหาร เช่น วิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ
- เพิ่มพลังงาน: คีโมทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย อาหารที่ให้พลังงาน เช่น คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ช่วยให้ร่างกายมีแรง และฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
- เตรียมพร้อมสำหรับการรักษา: ร่างกายที่แข็งแรง จากโภชนาการที่ดี ช่วยให้รับมือกับการรักษาครั้งต่อไปได้ดีขึ้น และลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียง
สารอาหารที่จำเป็น
- โปรตีน: ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ สร้างกล้ามเนื้อ และภูมิคุ้มกัน พบใน เนื้อปลา เนื้อไก่ ไข่ นม ถั่ว เต้าหู้ ควรรับประทานโปรตีนให้เพียงพอ ประมาณ 1.2 – 1.5 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
- คาร์โบไฮเดรต: ให้พลังงาน เลือกชนิดเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ธัญพืช ซึ่งย่อยช้า ทำให้อิ่มนาน และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หลีกเลี่ยง คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เช่น น้ำตาล ขนมหวาน
- ไขมัน: ให้พลังงาน และช่วยดูดซึมวิตามิน เลือกไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก อะโวคาโด ถั่ว ปลาทะเล จำกัดไขมันอิ่มตัว และไขมันทรานส์ ซึ่งพบใน อาหารทอด อาหารแปรรูป
- วิตามินและแร่ธาตุ: เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และมีส่วนช่วยในการทำงานของอวัยวะต่างๆ พบใน ผัก ผลไม้ ธัญพืช โดยเฉพาะ วิตามิน C, วิตามิน E, สังกะสี และ ซีลีเนียม
- น้ำ: สำคัญมาก ช่วยขับของเสีย และป้องกันการขาดน้ำ ซึ่งอาจเกิดจากผลข้างเคียงของคีโม เช่น ท้องเสีย อาเจียน
เลือกอาหารอย่างไร?
- อาหารอ่อน ย่อยง่าย: เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ซุป ลดภาระระบบย่อยอาหาร ซึ่งอาจบอบบางจากคีโม
- ปรุงสุก สะอาด: ป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งเป็นอันตราย เมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำ
- รสไม่จัด: ไม่ระคายเคืองแผลในปาก และระบบทางเดินอาหาร
- กินบ่อย ครั้งละน้อย: ลดคลื่นไส้ ช่วยดูดซึมสารอาหาร และป้องกันอาการจุกแน่นท้อง
- หลากหลาย: ได้รับสารอาหารครบถ้วน และช่วยให้ไม่เบื่ออาหาร
- ปรึกษาแพทย์ หรือนักโภชนาการ: เพื่อวางแผนการกินที่เหมาะสม กับสภาพร่างกาย และชนิดของมะเร็ง
ตัวอย่างเมนูอาหารบำรุงร่างกาย
- โปรตีน: ปลากระพงนึ่งซีอิ๊ว ปลาแซลมอนย่าง (อุดมไปด้วยโอเมก้า 3) ไก่ต้ม (ไม่ติดหนัง) ไข่ตุ๋น เต้าหู้นึ่ง น้ำเต้าหู้ เนื้อหมูหรือเนื้อวัวตุ๋นเปื่อย (เลือกส่วนที่ไม่ติดมัน) นม
- คาร์โบไฮเดรต: เช่น ข้าวกล้อง มันเทศ เผือก นึ่ง ขนมปังโฮลวีต ขนมปังสังขยา
- ไขมัน: อะโวคาโด น้ำมันมะกอก งา
- วิตามินและแร่ธาตุ: ผักใบเขียวต้ม (เช่น ผักโขม คะน้า ตำลึง บร็อคโคลี่) แครอท ฟักทองนึ่ง
ตัวช่วยสำคัญเพื่อฟื้นฟูร่างกาย
- PVP Gel: แผลในปาก เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ ที่ทำให้ผู้ป่วยเคมีบำบัด รับประทานอาหารได้ยาก และส่งผลต่อภาวะโภชนาการ PVP Gel เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพที่ดีขึ้นได้ PVP Gel เป็นโพลีเมอร์ที่ละลายในน้ำบริสุทธิ์ ช่วยเคลือบแผลในปาก ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บน้อยลงและสามารถรับประทานอาหารและกลืนอาหารได้เจ็บน้อยลง เมื่อผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้ จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ฟื้นฟูพลังงานและความแข็งแรง เพื่อให้สามารถเข้ารับการรักษาต่อได้โดยไม่ลำบาก
- Immunex FOS: พรีไบโอติก ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ลดอาการท้องผูก และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน Immunex FOS จัดเป็นพรีไบโอติก ที่มีฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ 8500 มิลลิกรัมต่อซอง ให้ปริมาณไฟเบอร์ที่เพียงพอต่อวันที่ร่างกายต้องการ
เคล็ดลับเพิ่มเติม
-
- รักษาความสะอาด: ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร และเลือกอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- ออกกำลังกายเบาๆ: เช่น การเดิน โยคะ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบย่อยอาหาร
- ดูแลจิตใจ: การมีทัศนคติที่ดี มีกำลังใจและได้รับกำลังใจจากคนรอบข้าง เป็นสิ่งสำคัญ
Genkihouse ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยมะเร็งทุกท่าน สู้ๆ นะครับ! 💖
- 📖 ดาวน์โหลดฟรี E-Book สู้มะเร็งไปด้วยกัน [https://online.fliphtml5.com/djqxd/obbe/](https://online.flip