เคมีบำบัด (คีโม) เป็นหนึ่งในวิธีการรักษามะเร็งที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็มักมาพร้อมกับผลข้างเคียงที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ท้องเสีย หรือท้องผูก แผลในปาก และภูมิต้านทานลดลง การดูแลตัวเองหลังเคมีบำบัดจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และเตรียมความพร้อมสำหรับการรักษาในขั้นต่อไป
ทำไมโภชนาการจึงสำคัญหลังเคมีบำบัด?
- ซ่อมแซมร่างกาย: เคมีบำบัดมีผลต่อเซลล์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงเซลล์มะเร็งและเซลล์ปกติบางชนิด เช่น เซลล์เยื่อบุทางเดินอาหาร เซลล์เม็ดเลือด โภชนาการที่ดี ช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย และเสริมสร้างเซลล์ใหม่ให้แข็งแรง โดยเฉพาะโปรตีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: ภูมิต้านทานมักลดลงหลังเคมีบำบัด อาหารที่อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ
- เพิ่มพลังงาน: เคมีบำบัดทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย อาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และไขมันดี ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
- เตรียมพร้อมสำหรับการรักษา: โภชนาการที่ดี ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมรับการรักษาในครั้งต่อไป และลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อน
โภชนาการที่จำเป็นหลังเคมีบำบัด
หลังการให้เคมีบำบัด ร่างกายต้องการสารอาหารเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และเสริมสร้างความแข็งแรง โดยสารอาหารที่สำคัญ ได้แก่
- โปรตีน: เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และสร้างภูมิคุ้มกัน นับเป็นอาหารที่สำคัญที่อยากให้ผู้ป่วยทานโปรตีนให้ได้แหล่งอาหารที่อุดมด้วยโปรตีน ได้แก่ เนื้อปลา เนื้อไก่ ไข่ นม ถั่วต่างๆ เต้าหู้
- คาร์โบไฮเดรต: เป็นแหล่งพลังงานของร่างกาย ควรเลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ธัญพืช ซึ่งจะค่อยๆ ปลดปล่อยพลังงาน ทำให้รู้สึกอิ่มนาน และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- ไขมัน: ให้พลังงาน และช่วยในการดูดซึมวิตามินบางชนิด ควรเลือกไขมันที่ดี เช่น ไขมันไม่อิ่มตัว จาก น้ำมันมะกอก ถั่ว งา
- วิตามินและแร่ธาตุ: ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และการทำงานของร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินอี สังกะสี ซีลีเนียม ซึ่งพบมากในผัก ผลไม้ ธัญพืช
- น้ำ: ดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ และช่วยในการขับถ่าย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากเคมีบำบัด อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ได้
อาหารบำรุงร่างกายหลังเคมีบำบัด: เลือกอย่างไรให้เหมาะสม
- เน้นอาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย: เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก แกงจืด ซุป เพื่อลดภาระการทำงานของระบบย่อยอาหาร ซึ่งอาจยังอ่อนแอจากผลข้างเคียงของเคมีบำบัด เช่น คลื่นไส้ อาเจียน และ ท้องเสีย นอกจากนี้ถ้ามีแผลในปากการกินอาหารอ่อนๆก็จะช่วยทำให้เจ็บน้อยลงได้
- ปรุงอาหารให้สุก สะอาด: ล้างวัตถุดิบให้สะอาด และปรุงอาหารให้สุก เน้นทำกินเอง เพราะจะได้ไม่มีผลชูรส หรือปรุงอาหารเค็มหรือวานเกินไป
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด: เช่น อาหารรสเผ็ด เปรี้ยวจัด ซึ่งอาจระคายเคืองกระเพาะอาหาร และทำร้ายแผลในปากให้เจ็บมากขึ้น
- รับประทานอาหารทีละน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง: เพื่อลดอาการคลื่นไส้ และช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น โดยอาจแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ 5-6 มื้อต่อวัน
- เลือกอาหารที่หลากหลาย: เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน และช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร ซึ่งอาจลดลงจากผลข้างเคียงของเคมีบำบัด เช่น การเปลี่ยนแปลงของรสชาติ
- ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ: เพื่อขอคำแนะนำในการเลือกรับประทานอาหาร ให้เหมาะสมกับสภาวะของแต่ละบุคคล และชนิดของมะเร็งที่เป็น รวมถึง โรคประจำตัวอื่นๆ
ตัวช่วยฟื้นฟูร่างกาย
- PVP Gel: แผลในปาก เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ ที่ทำให้ผู้ป่วยเคมีบำบัด รับประทานอาหารได้ยาก และส่งผลต่อภาวะโภชนาการ PVP Gel เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพที่ดีขึ้นได้ PVP Gel เป็นโพลีเมอร์ที่ละลายในน้ำบริสุทธิ์ ช่วยเคลือบแผลในปาก ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บน้อยลงและสามารถรับประทานอาหารและกลืนอาหารได้เจ็บน้อยลง เมื่อผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้ จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ฟื้นฟูพลังงานและความแข็งแรง เพื่อให้สามารถเข้ารับการรักษาต่อได้โดยไม่ลำบาก
- Immunex FOS: พรีไบโอติก ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ลดอาการท้องผูก และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน Immunex FOS จัดเป็นพรีไบโอติก ที่มีฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ 8500 มิลลิกรัมต่อซอง ให้ปริมาณไฟเบอร์ที่เพียงพอต่อวันที่ร่างกายต้องการ
ตัวอย่างเมนูอาหารบำรุงร่างกาย
- โปรตีน: ปลากระพงนึ่งซีอิ๊ว ปลาแซลมอนย่าง (อุดมไปด้วยโอเมก้า 3) ไก่ต้ม (ไม่ติดหนัง) ไข่ตุ๋น เต้าหู้นึ่ง น้ำเต้าหู้ เนื้อหมูหรือเนื้อวัวตุ๋นเปื่อย (เลือกส่วนที่ไม่ติดมัน) นม
- คาร์โบไฮเดรต: เช่น ข้าวกล้อง มันเทศ เผือก นึ่ง ขนมปังโฮลวีต ขนมปังสังขยา
- ไขมัน: อะโวคาโด น้ำมันมะกอก งา
- วิตามินและแร่ธาตุ: ผักใบเขียวต้ม (เช่น ผักโขม คะน้า ตำลึง บร็อคโคลี่) แครอท ฟักทองนึ่ง
เคล็ดลับเพิ่มเติม
-
- รักษาความสะอาด: ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร และเลือกอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- ออกกำลังกายเบาๆ: เช่น การเดิน โยคะ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบย่อยอาหาร
- ดูแลจิตใจ: การมีทัศนคติที่ดี มีกำลังใจและได้รับกำลังใจจากคนรอบข้าง เป็นสิ่งสำคัญ
Genkihouse ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยมะเร็งทุกท่าน สู้ๆ นะครับ! 💖
- 📖 ดาวน์โหลดฟรี E-Book สู้มะเร็งไปด้วยกัน [https://online.fliphtml5.com/djqxd/obbe/](https://online.flip